Choose your country / language

นโยบายความเป็นส่วนตัวของเออร์ลิคอน บัลเซอร์ส

การบริหารจัดการความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับลูกค้าปัจจุบัน ท่านที่อาจเป็นลูกค้า ในอนาคต คู่ค้า ผู้ติดต่อภายนอก (ยกเว้นซัพพลายเออร์) ของเรา

1. คำจำกัดความ

ข้อมูลส่วนบุคคล: หมายถึงข้อมูลใดๆ ซึ่งอาจเป็นการระบุตัวตนโดยตรงหรือโดยอ้อม เช่น ชื่อ รายละเอียดข้อมูลติดต่อ ตำแหน่ง หมายเลขประจำตัว สิ่งระบุตัวตนออนไลน์

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: หมายถึงนิติบุคคลผู้กำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยอาจกระทำตามลำพังหรือร่วมกับผู้อื่น

การประมวลผลหมายถึงการดำเนินการหรือชุดการดำเนินการใดๆ ที่กระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูล ส่วนบุคคล ไม่ว่าจะด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การรวบรวม การบันทึก การจัดระเบียบ การจัดโครงสร้าง การจัดเก็บ การเปลี่ยนแปลงหรือการแก้ไข การค้นคืน การหารือ การใช้ การเปิดเผยโดยการส่งผ่าน การแจกจ่ายเผยแพร่ หรือจัดให้มีข้อมูลดังกล่าวขึ้นโดยวิธีการอื่น, การผนวกรวมหรือการรวมเข้าด้วยกัน, การจำกัด, การลบทิ้ง หรือการทำลาย

2. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึงนิติบุคคลผู้รับผิดชอบในการรวบรวม การใช้ และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และมีหน้าที่สร้างความเชื่อมั่นว่ามีการปฏิบัติสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลที่มีผล บังคับใช้

Oerlikon Surface Solutions AG และบริษัทในเครือ เออร์ลิคอน บัลเซอร์ส แต่ละแห่งทำหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแลข้อมูลอย่าง อิสระ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการลูกค้าปัจจุบัน ท่านที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต และผู้ติดต่อภายนอกของแต่ละแห่งเอง หน่วยงานของเออร์ลิคอนซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายในการรวบรวม การใช้ และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่หน่วยงานของ เออร์ลิคอน บัลเซอร์ส ซึ่งท่านกำลังหรือได้มีการติดต่อด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อหน่วยงานต่างๆ ของ เออร์ลิคอน บัลเซอร์สแบ่งปันลูกค้าและข้อมูลเพื่อการนำเสนอหรือให้บริการแก่ลูกค้า รายเดียวกันแบบเป็นองค์รวม หน่วยงานของ เออร์ลิคอน บัลเซอร์ส ที่เกี่ยวข้องจะทำหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแลข้อมูลร่วมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ารายเดียวกันไปใช้งาน กล่าวคือ หน่วยงานเหล่านั้นมีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันในการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้งาน

3. โอกาสที่ทางเราจะบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านลงใน CRM ของเรา

เราจะบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของท่านลงในระบบของเราหากท่าน:

  • ให้รายละเอียดข้อมูลติดต่อธุรกิจแก่เราระหว่างการประชุมหรือเหตุการณ์อื่นใด หรือผ่านทางแบบฟอร์มติดต่อบนเว็บไซต์ของเรา และ
  • ต้องการรับข้อมูลหรือหารือเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันกับเรา หรือ
  • เป็นลูกค้าหรือคู่ค้าที่เราติดต่อทางธุรกิจอยู่
4. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราทำการรวบรวม

จากการที่เราจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการให้กับลูกค้าองค์กรเท่านั้น เราจึงทำการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แบบจำกัด

ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านที่เราทำการรวบรวมโดยทั่วไปแล้วประกอบด้วยสิ่งเหล่านี้เป็นหลัก:

  • ข้อมูลระบุตัวตน (เช่น ชื่อ นามสกุล คำนำหน้าชื่อ วันเกิด ข้อมูลบัตรประชาชน (ถ้ามี))
  • รายละเอียดข้อมูลติดต่อในการทำงาน (เช่น ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ประเทศ)
  • ข้อมูลการทำงาน เช่น หน้าที่ของท่าน ตำแหน่ง แผนก บริษัทที่ท่านทำงาน โครงการที่มีการหารือหรือสัญญาที่ตามมาด้วยและการสื่อสารที่เกี่ยวข้อง (เช่น การเจรจา เคสบริการ การขอรับบริการ ผลิตภัณฑ์ การติดตามการทำสัญญา ข้อมูลเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่วางแผนไว้และ/หรือที่ผ่านมา)
  • ข้อมูลเกี่ยวกับความยินยอมใดๆ ที่ให้ไว้เพื่อกิจกรรมด้านการตลาดโดยตรงโดยเฉพาะ (เช่น วันที่ส่งมอบ ขอบเขตความยินยอม)
5. เหตุผลที่เรารวบรวมและนำข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านไปใช้

เราจะนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในขอบเขตที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • การรวมรายละเอียดข้อมูลติดต่อ หนังสือสัญญา และการสื่อสารกับลูกค้าปัจจุบัน ท่านที่อาจเป็นลูกค้า ในอนาคต ผู้ติดต่อภายนอกรวมถึงคู่ค้าแต่ละรายไว้ที่ศูนย์กลาง
  • การบริหารจัดการความสัมพันธ์กับท่านด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพ
  • การประเมินโอกาสและการประเมินว่าเราจะได้รับผลประโยชน์ในการเจรจาหรือสรุปสัญญาหรือไม่
  • การเจรจา การสรุป และการดำเนินการและการบริหารจัดการสัญญาของเรา (เช่น การขาย การแจ้งหนี้ การส่งมอบบริการ การรับประกัน การบริหารบัญชี การประชุม)
  • การบรรลุข้อผูกมัดตามกฎหมายของเรา (เช่น การต่อต้านการติดสินบน ผลประโยชน์ทับซ้อน การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อสถาบันภาครัฐ เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ หรือศาลตามที่ร้องขอ)
  • การปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของเราในกรณีที่มีการฟ้องร้องคดี
  • การป้องกันความปลอดภัยของระบบและข้อมูลของเรา
  • การบริหารจัดการกิจกรรมทางการตลาดโดยตรง (โดยได้รับความยินยอมล่วงหน้า) และการจัดกิจกรรม งานแสดงสินค้า และการนัดพบลูกค้า
6. พื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการประมวลผลข้อมูล

เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนพื้นฐานทางกฎหมายที่บังคับใช้ดังต่อไปนี้:

นอก EU / EEA ขอบเขตทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นไปตามความยินยอม เราจะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความยินยอมเท่านั้น ถ้าความยินยอมนั้นไม่มีกฎหมายที่เป็นไปได้รองรับในการรวบรวม, ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 ภายใน EU / EEA กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วยบุคคลที่บังคับใช้คือกฎการคุ้มครองข้อมูลทั่วไปของสหภาพยุโรป 2016/679 (GDPR) และเราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามพื้นที่ทางกฎหมายของ GDPR ต่อไปนี้:

  • ความยินยอมของท่าน (มาตรา 6 ย่อหน้า 1 ส่วนที่ 1 วรรค a), มาตรา 7, มาตรา 9 ย่อหน้า 2 วรรค a) GDPR)
    • สำหรับกรณีของกิจกรรมทางการตลาดโดยตรง หากเราอ้างถึงความยินยอมของท่านว่า เป็นพื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะสามารถ เพิกถอนความยินยอมของท่านได้ทุกเมื่อในอนาคต
  • ความจำเป็นในการเข้าสู่ความสัมพันธ์ตามสัญญากับท่าน และการบรรลุข้อผูกมัดตามสัญญาของเรา (มาตรา 6 ย่อหน้า 1 ส่วนที่ 1 วรรค b) GDPR) เมื่อเราติดตามการดำเนินการตามสัญญา การชำระเงินใดๆ รวมถึงอ่านและบันทึกการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาหรือการดำเนินการตามสัญญากับท่านหรือบริษัทของท่าน
  • ความจำเป็นในการติดตามผลประโยชน์ตามกฎหมายของเรา หรือผลประโยชน์ตามกฎหมายของ บุคคลที่สาม (มาตรา 6 ย่อหน้า 1 ส่วนที่ 1 วรรค f) GDPR) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
    • การบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของท่านลงในระบบของเราเพื่อการบริหารจัดการความสัมพันธ์ของเรากับท่าน และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์ของเรากับท่าน เพื่อการสื่อสารกับท่าน
    • เมื่อเราให้ซัพพลายเออร์มีส่วนร่วมในการรับการสนับสนุนจากมุมมองด้าน IT
    • เมื่อเราจัดการประชุมธุรกิจหรืองานแสดงสินค้า กิจกรรม งานเลี้ยงอาหาร และบันทึกการ ลงทะเบียนและความต้องการด้านอาหารของท่านเพื่อการนี้
    • เมื่อเรานำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในการปรับปรุงแนวทางการมีปฏิสัมพันธ์กับท่านรวมถึงขั้นตอนการบริการและการขายของเรา
    • เมื่อเราจัดเก็บข้อมูลการสื่อสารของเราเข้าคลังเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของเราต่อหน้าศาลหรือผู้มีอำนาจควบคุมในกรณีที่มีการตรวจสอบหรือการฟ้องร้อง
  • ข้อผูกมัดตามกฎหมาย (มาตรา 6 ย่อหน้า 1 c) GDPR): ในกรณีที่เราเก็บข้อมูลเข้าคลังด้วยเหตุผล ด้านภาษี เก็บหลักฐานการชำระเงินของลูกค้า ระบุตัวผู้รับผลประโยชน์ขั้นสุดท้ายของสัญญา ทำการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะใดๆ เกี่ยวกับลูกค้าในระบบของเรา
7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านร่วมกับหน่วยงานด้านล่างนี้ตามขอบเขตที่จำเป็น เพื่อรับการสนับสนุนกิจกรรมของเราและเพื่อรับรองความมั่นใจในวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในหมวดที่ 5:

  • OC Oerlikon Management AG เพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงานและการสนับสนุนการดำเนินงานของเรา
  • Oerlikon IT Solutions (OIS) และซัพพลายเออร์ภายนอก เพื่อวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนด้าน IT การบำรุงรักษา การจัดเก็บ
  • ซัพพลายเออร์ภายนอกผู้สนับสนุนเราในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของเรา
  • ที่ปรึกษาด้านวิชาชีพ ธนาคาร บริษัทประกัน ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ทนาย ที่ปรึกษาด้านภาษี
  • ผู้ร่วมจัดกิจกรรมที่ท่านประสงค์จะเข้าร่วมด้วยความยินยอมของท่าน
  • หน่วยงานภาครัฐ เจ้าหน้าที่ หรือศาลผู้มีอำนาจ เมื่อมีการร้องขอ หากต้องใช้ตามกฎหมายหรือหากจำเป็น เพื่อปกป้องสิทธิของเราในการฟ้องร้อง

ผู้ให้บริการภายนอกสามารถเข้าถึงได้เฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติภารกิจเฉพาะเท่านั้น โดยเราจะลงนามในข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลกับผู้ให้บริการดังกล่าวเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีการปฏิบัติสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลที่มีผลบังคับใช้ โดยเฉพาะกฎระเบียบ 2016/679/EC (GDPR)

ในกรณีที่มีการควบกิจการ การรวมธุรกิจ การปรับโครงสร้าง การร่วมทุน หรือกระบวนการที่คล้ายกัน อาจมีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านร่วมกับบริษัทที่เข้าควบรวมหรือถูกควบรวม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในข้อตกลงของเรา กับบริษัทของท่านและความยินยอมใดๆ ที่ต้องมี

8. การถ่ายโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ

ระบบที่ใช้ในการบริหารจัดการด้านลูกค้าสัมพันธ์ของเราได้รับการจัดเก็บและดูแลรักษาลิกเตนสไตน์

อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลทางด้านการดำเนินธุรกิจนานาชาติของเรา องค์กรมีการกระจายอำนาจและทรัพยากรมนุษย์ และโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ระดับโลก หน่วยงานที่ระบุไว้ในหมวดที่ 7 (หน่วยงานที่อาจสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้) อาจอยู่ในต่างประเทศและในประเทศที่ไม่มีการคุ้มครองข้อมูลในระดับเดียวกันกับ ประเทศของท่าน

โปรดทราบว่าเมื่อจะต้องมีการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากประเทศนอกเหนือจาก EU/EEA/สวิตเซอร์แลนด์ ไปยังประเทศที่ "ไม่เทียบเท่า" ตามที่คณะกรรมาธิการยุโรป เป็นผู้กำหนด) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองโดยสิ่งใดสิ่งหนึ่งดังต่อไปนี้:

  • ข้อตกลงการถ่ายโอนและประมวลผลข้อมูลแบบกลุ่มภายในเออร์ลิคอน ซึ่งมีการลงนามโดยหน่วยงานของเออร์ลิคอนในกลุ่มทั้งหมด ข้อตกลงฉบับนี้มีพื้นฐานอยู่บนข้อสัญญามาตรฐานของคณะกรรมาธิการยุโรป และจะให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อมีการส่งให้กับหน่วยงานของเออร์ลิคอนในต่างประเทศ
  • ข้อตกลงการส่งข้อมูล หากผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมิได้เป็นสมาชิกของ Oerlikon Group (หรือข้อตกลงอื่นใดที่เหมาะสม หากกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลที่มีผลบังคับใช้มิได้กำหนดให้ต้องมีข้อตกลงการส่งข้อมูล)
9. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล

เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาตามที่จำเป็นเพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในหมวดที่ 5 เท่านั้น

โดยทั่วไปแล้ว สำหรับท่านที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นไว้ตราบเท่าที่เรายังมี การติดต่อกัน เราทำการวิเคราะห์ความต้องการของบุคคลเหล่านั้น และบุคคลเหล่านั้นมีความคาดหวังร่วมกันกับเรา ภายหลังการประเมินความต้องการของบุคคลเหล่านั้นในฐานะผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคตแล้ว หากเราพิจารณา เห็นว่าเราไม่อาจให้คำตอบในเชิงบวกได้ เราอาจตัดสินใจลบข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นออกจากระบบของเรา เพียงฝ่ายเดียว นอกจากนี้ เรายังลบข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นหากได้รับการร้องขอจากบุคคลเหล่านั้นอีกด้วย (โดยมีเงื่อนไขว่าเราไม่ต้องเก็บข้อมูลเข้าคลังข้อมูลด้วยเหตุผลตามกฎหมาย)

สำหรับลูกค้า โดยทั่วไปแล้วเราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นไว้เป็นระยะเวลาตามความผูกพันของสัญญา จากนั้นจะนำไปเก็บเข้าคลังตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากข้อกำหนดทางกฎหมายระบุไว้ว่าให้เก็บไว้ หรือหากจำเป็นต้องเก็บเพื่อปกป้องสิทธิของเราต่อหน้าศาลหรือผู้มีอำนาจควบคุม หากท่านเป็นลูกค้าที่มีการติดต่อทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เราอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหลังจากสิ้นสุดข้อตกลงทางธุรกิจเพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการคำสั่งซื้อในอนาคตของท่านด้วย

อีเมลที่บันทึกลงในระบบบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ของเราจะถูกลบหลังจากการเปิดเผยกรณี (เช่น กรณี โอกาส การเสนอราคา) ผ่านไป 6 ปี ข้อมูลที่อาจเกี่ยวข้องกับความรับผิดในผลิตภัณฑ์จะถูกลบหลังจากบรรลุข้อตกลง ตามสัญญาแล้ว 12 ปี หากมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเข้าคลังเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น จะมีการเก็บรักษาข้อมูลเหล่านั้นไว้อย่างแน่นหนาและมีการเข้าถึงเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้นเท่านั้น นอกจากนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่รวมไว้ในเอกสารซึ่งถือว่าเป็นจดหมายธุรกิจ หรือมีความเกี่ยวข้องกับประเด็นด้านการทำบัญชีและภาษี จะได้รับการเก็บรักษาไว้ตามกฎหมายเป็นระยะเวลาห้าหรือสิบปี โดยมีระยะเวลา รักษาความปลอดภัย 2 ปี

ทุกๆ ปีเมื่อสิ้นสุดปีตามปฏิทินในแต่ละปี เราจะทำการวิเคราะห์ผู้ติดต่อทั้งหมดของเรา และตรวจสอบว่าการ เก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ยังคงสำคัญและจำเป็นอยู่หรือไม่ หากไม่มีความจำเป็นทางธุรกิจและข้อกำหนดตามสัญญาหรือกฎหมายที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอาไว้ต่อไป จะมีการลบข้อมูลเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น หากเราไม่ได้รับทราบข่าวคราวเกี่ยวกับท่านที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคตหรือผู้ติดต่อภายนอกนอกเหนือจากลูกค้าในช่วงระยะเวลาหนึ่งปี และบุคคลเหล่านั้นไม่มีการตอบกลับข้อความของเราอีกต่อไป

10. วิธีการบริหารจัดการความยินยอมของท่านในการรับข้อความทางการตลาดโดยตรงและการยกเลิกการรับข่าวสาร

หากท่านต้องการรับคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรม บัตรอวยพร ข้อมูลเกี่ยวกับบริการของเรา ท่านสามารถคลิกลิงก์ ที่เกี่ยวข้อง กรอกข้อความ CRM อัตโนมัติที่ผ่านได้รับทันทีที่มีการบันทึกข้อมูลของท่านลงในระบบของเรา หรือส่งคำขอของท่านทางอีเมลมายังตัวแทนฝ่ายขายที่ท่านติดต่อ

หากท่านได้สมัครรับคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรม จดหมายข่าว บัตรอวยพร หรือข้อมูลทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับบริการของเรา ท่านสามารถเพิกถอนคำยินยอมได้ทุกเมื่อโดยปฏิบัติโดย คลิกลิงก์ "ยกเลิกรับข่าวสาร" ที่มีอยู่ในอีเมลยืนยันที่ท่านได้รับหลังจากสมัครรับข่าวสาร หรือ ในอีเมลส่งเสริมการขายที่ส่งถึงท่าน

11. สิทธิของท่านที่มีต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

สิทธิของท่านขึ้นอยู่กับกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคุณสามารถใช้สิทธิ1:

  • รับทราบว่าเราทำการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านหรือไม่และเพื่อวัตถุประสงค์ใด และขอรับ สำเนาข้อมูลดังกล่าว
  • ร้องขอให้มีการแก้ไขหรือการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่มีมูลเหตุตามกฎหมายที่ทางเออร์ลิคอนจะเก็บไว้อีกต่อไป
  • ร้องขอให้มีการจำกัดหรือการยุติการนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้งาน และ/หรือคัดค้านไม่ให้เรา นำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ หากท่านมีประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายที่จะทำเช่นนั้น ในกรณี ที่มีการคัดค้าน เราจะยุติการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นเสียแต่ว่าเราจะสามารถให้เหตุผล อันจำเป็นซึ่งมีผลลบล้างผลประโยชน์ สิทธิ หรือเสรีภาพของท่าน ตัวอย่างเช่น หากเราจำเป็นต้องเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ด้วยเหตุผลทางกฎหมาย ปกป้องสิทธิของเราต่อหน้าศาล ครอบคลุมภาระค้ำประกัน หรือเพื่อให้เป็นไปตามข้อผูกมัดตามสัญญาของเรา
  • หากเรานำข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปใช้งานตามความยินยอมของคุณ คุณมีสิทธิ์ในการร้องขอนำเอาข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ในกรณีนี้คุณสามารถขอข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากเราในรูปแบบที่มีโครงสร้างทั่วไปและสามารถอ่านได้ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์หรือให้ส่งข้อมูลเหล่านั้นไปยังหน่วยงานอื่นที่คุณต้องการ
  • หากเราได้ทำการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านตามความยินยอมของท่าน ท่านสามารถเพิกถอนการยินยอมของท่านได้ทุกเมื่อ (หากท่านไม่ต้องการรับข้อความทางธุรกิจจากเราอีกต่อไป)
  • ท่านยังสามารถเรียกร้องและขอให้มีการตรวจสอบการตัดสินใจใดๆ ที่อาจมีการทำขึ้นเกี่ยวกับท่านโดยมีพื้นฐานบนกระบวนการอัตโนมัติ หากสิ่งนั้นมีผลกระทบต่อสิทธิของตัวท่านเองอย่างมีนัยสำคัญ
  • ท่านสามารถยื่นคำร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้กำกับดูแลของท่านได้หากท่านเห็นว่ามีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลผลโดยขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลที่มีผลบังคับใช้หรือมีการละเมิดสิทธิของท่าน

สำหรับการยกเลิกรับอีเมลทางการตลาดของเรา โปรดปฏิบัติตามแนวทางในหมวดที่ 10

สำหรับการรับการยืนยันในเบื้องต้นว่าเออร์ลิคอนถือข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือการรับการแก้ไขรายละเอียดข้อมูลติดต่อทางธุรกิจของท่าน โปรดส่งอีเมลไปยังตัวแทนฝ่ายขายที่ท่านติดต่อ หากท่านร้องขอให้มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการติดต่อ โปรดให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อยืนยันตัวตนของท่าน เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

สำหรับคำร้องอื่นใด และหากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา หรือแนวทางที่เออร์ลิคอน
นำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer) ของเราโดยตรงที่ privacy.corporate(at)oerlikon.com เพื่อยื่นคำร้อง โปรดระบุข้อมูลดังต่อไปนี้ ชื่อ นามสกุล ชื่อบริษัทที่ท่านทำงาน รายละเอียดข้อมูลติดต่อธุรกิจ (สำหรับการส่งคำตอบกลับ) บริษัทเออร์ลิคอนและ/หรือตัวแทนฝ่ายขายที่ท่านติดต่อ ข้อสงสัยหรือคำร้องของท่าน ข้อมูลส่วนบุคคลที่คำขอของท่านครอบคลุม สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ใช้เฉพาะเมื่อจำเป็นต้องยืนยันตัวตนของท่าน จากนั้นจะถูกลบทิ้ง)

วันที่: พฤษภาคม 2020


1 สิทธิเหล่านี้เป็นข้อบังคับของ GDPR แต่ไม่จำเป็นว่าบังคับใช้กับทุกประเทศ โดยทั่วไปประเทศให้สิทธิ์อย่างน้อยในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิในการได้รับการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์

keyboard_arrow_up